เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้รับพัสดุที่ส่งมาจากต่างประเทศกล่องนึง ตอนแรกก็งงๆ ว่าใครส่งอะไรมาให้ ข่วงนี้ก็ไม่ได้ติดต่อใครที่ต่างประเทศนี่นา
ว่าแล้วก็จัดการแกะดูซะเลย พอเห็นของที่อยู่ในกล่อง ถึงกับร้องอ๋อ ด้วยความตื่นเต้น ที่แท้ก็ CTRL ONE น่ะเอง
CTRL ONE คืออะไร?
CTRL ONE คือแว่นสำหรับใส่ขี่จักรยานที่มาจากโครงการระดมทุนใน INDIEGOGO เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว (2558) ซึ่งจบโครงการระดมทุนไปด้วยยอด 585,375 เหรียญสหรัฐ สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ถึง 1,842% เนื่องจากได้รับความสนใจอย่างล้นหลามทั้งจากนักปั่นทั่วโลกและผู้ที่ชื่นชอบกีฬากลางแจ้งอื่นๆ
แว่นใส่ปั่นจักรยานอันนี้มีความพิเศษยังไง ทำไมต้องมาระดมทุน แล้วทำไมคนถึงให้ความสนใจและสนับสนุนโครงการนี้กันมากขนาดนี้
คุณลักษณะพิเศษของเจ้าแว่นอันนี้ก็คือ มันสามารถเปลี่ยนความเข้มของเลนส์ได้ตามสภาพแสงแบบอัตโนมัติ (หรือจะปรับเองด้วยมือก็ได้) ในช่วงเวลาที่สั้นมาก (0.1วินาที)ด้วย e-Tint liquid crystal technology ซึ่งเดิมทีเทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาขึ้นสำหรับหน่วยรบพิเศษของกองทัพสหรัฐเท่านั้น เมื่อถูกนำมาใส่ในแว่นกันแดดสำหรับกีฬากลางแจ้งอย่างการปั่นจักรยานหรือวิ่งจึงได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจากจะมีประโยชน์ในสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงของสภาพแสงอย่างรวดเร็ว เช่น การเคลื่อนที่เข้าหรือออกจากอุโมงค์ หรือร่มไม้ครึ้ม เป็นต้น ซึ่งการที่เลนส์ของแว่นกันแดดสามารถปรับความเข้มตามสภาพแสงได้อย่างรวดเร็วก็จะช่วยให้ลดอาการตาพร่า หรือสภาพตาบอดชั่วคราวเนื่องจากความเข้มแสงสูงกระทันหันได้ ซึ่งในการระดมทุนคราวนี้ก็ได้ Andy Schleck แชมป์จักรยานทางไกลรายการ ตูร์ เดอ ฟรองค์ มาเป็นพรีเซนเตอร์และร่วมทดสอบแว่นตัวนี้ด้วย ซึ่งทาง CTRL Eyewear ได้ออกรุ่นพิเศษ Andy Schleck Special Edition. ออกมาด้วยซึ่งตัวเฟรมแว่นจะเป็นสี Chrome และตัวเลนส์เป็นสีน้ำเงินม่วง ในช่วงที่เค้าระดมทุนกันผมก็ได้มีโอกาสไปต่อคิวให้การสนับสนุนโครงการนี้กับเค้าด้วย แต่โครงการก็กินเวลาไปหลายเดือนในการสร้างและประกอบขิ้นส่วน ซึ่งล่าช้ากว่ากำหนดส่งมอบไปเกือบสองเดือน (เดิมกำหนดส่งช่วงคริสต์มาส) เนื่องจากทางผู้ผลิตเลือกที่จะประกอบขิ้นส่วนด้วยมือแทนที่จะใช้เครื่องจักรในการประกอบ เพราะต้องการควบคุมคุณภาพในการผลิตให้ปรานีตและดีที่สุด
เรามาเปิดกล่องกันดูเลยดีกว่าว่ามีอะไรให้มาบ้าง แท๊นแท๊นแทนนนนน (ตื่นเต้น)
สิ่งที่อยู่ในกล่องก็คือ Hard case สีดำขลิบส้ม มีสัญลักษณ์ของ CTRL Eyewear อยู่บนกล่อง
ภายใน hard case แบ่งเป็นสองส่วนคือ ส่วนที่เก็บอุปกรณ์เสริม และส่วนที่เก็บแว่นตา
อุปกรณ์เสริมที่ให้มามีสามอย่าง ชิ้นแรกคือ สาย micro USB สำหรับชาร์จไฟ เป็นสายสีดำมีขลิบขาวบริเวณหัว USB ทั้งสองด้าน
ชิ้นต่อมาคือสายคล้องแว่นสีดำ
ชิ้นสุดท้ายเป็นถุงผ้าสำหรับใส่แว่น ซึ่งมีลักษณเป็นถุงผ้านุ่มซึ่งสามารถใช้เช็ดแว่นได้อีกด้วย
หลังจากดูอุปกรณ์เสริมไปแล้วคราวนี้มาดูตัวแว่นกันบ้างนะครับ
ตัวแว่นรุ่นที่ผมได้มาเป็นรุ่นสีดำแดง เลนส์แว่นเป็นแบบสี Neutral smoke น้ำหนักตัวเฟรมแว่นถือว่าค่อนข้างเบา นำ้หนักแว่น 45 กรัม เฟรมแว่นทำจาก Nylon TR90 ที่มีความทนทานสูงตัวเลนส์ทางผู้ผลิตระบุไว้ว่าเป็น Bulletproof/Ballistic Lens (ANSI Z87.1) ความหนาของเลนส์ 2.1 mm ทำจาก Polycarbonate ซึ่งมีความทนทานสูง พร้อมมีคุณสมบัติ Anti-fog และ Anti reflective coating
ตัวแผ่นรองจมูก สามารถปรับได้ตามรูปร่างจมูกของแต่ละคนเพื่อความกระชับในการสวมใส่ครับ
ด้านในของขาแว่นด้านซ้ายเป็นเซ็นเซอร์รับแสงแบบ Silicon Photodiode ซึ่งจะทำงานร่วมกับ Guest-Host Liquid Crystals Display (GHLCD) Technology ในการเปลี่ยนความเข้มของเลนส์
บริเวณขาแว่นด้านซ้ายจะมีปุ่มสวิทช์เปิด-ปิด การทำงานของแว่น (Activation button) อยู่ ซึ่งปุ่มนี้นอกจากใช้เปิดการทำงานของตัวแว่นแล้วยังใช้สั่งงานอีกหลายอย่างดังต่อไปนี้
- กดสวิทช์หนึ่งครั้งแล้วปล่อย เป็นการสลับการเปลี่ยนสีของเลนส์แบบแมนนวล
- กดสวิทช์ค้างไว้ 3 วินาที เป็นการเปลี่ยนจากแมนนวลโหมดไปเป็น Automatic mode โดยเลนส์จะกระพริบ 2 ครั้ง เมื่อเข้าสู่ Automatic mode หากต้องการออกจาก Automatic mode ก็เพียงกดที่สวิทช์อีก 1 ครั้ง
- ปรับตั้งค่าแสงที่ต้องการให้เซ็นเซอร์ทำการเปลี่ยนสีเลนส์ตามที่เราต้องการ ซึ่ง CTRL ONE มีฟังก์ชันให้เรากำหนดค่าแสงที่ต้องการเปลี่ยนสีของเลนส์ใน Automatic mode ได้ด้วยตัวเองในกรณีไม่ชอบค่าแสงที่ถูกเซตไว้จากผู้ผลิต วิธีการปรับตั้งก็สามารถทำได้ง่ายๆ คือ นำแว่นไปไว้ในสภาพความเข้มแสงที่ต้องการให้เป็นค่าในการกำหนดให้เซ็นเซอร์ทำงานใน Automatic mode โดยต้องให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรบังเซ็นเซอร์รับแสงนะครับ หลังจากนั้นให้กดปุ่มสวิทช์ค้างไว้ 4 วินาที เลนส์จะกระพริบ 3 ครั้ง ตัวแว่นจะทำการจดจำค่าแสงนั้นไว้เพื่อสั่งการทำงานของเซ็นเซอร์ Automatic mode
- หากไม่ต้องการใช้งานค่าแสงที่เราปรับตั้งไว้และต้องการกลับไปใช้งานค่าที่ทางผู้ผลิตปรับตั้งมาให้ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการกดปุ่มสวิทช์ค้างไว้ 6 วินาที จะเป็นการทำ Factory reset ได้ค่าปรับตั้งที่ทางผู้ผลิตปรับตั้งมาให้ (>55%, <12% neutral)
ข้างๆ ปุ่มสวิทช์สั่งงาน เป็นฝาปิดช่อง micro-USB สำหรับชาร์จไฟ
โดยการชาร์จไฟ ก็ใช้สาย micro-USB เสียบเข้าไปโดยตรงที่ช่องนี้ สามารถใช้อแดปเตอร์ทั่วไปของสมาร์ทโฟน ช่อง USB บนคอมพิวเตอร์ในการชาร์จได้เลย
แบตเตอรีของแว่นเป็นแบบ Lithium Polymer ขนาด 50 mAh <8V ในระหว่างที่กำลังชาร์จไฟ ตัวเลนส์ของแว่นจะเป็นสีเข้มดังภาพนะครับ ซึ่งจะใช้เวลาในการชาร์จประมาณ 1-2 ชั่วโมง
เมื่อชาร์จไฟเต็มแล้ว สีของเลนส์จะจางลงดังภาพครับ ข้อแนะนำจากผู้ผลิต เมื่อชาร์จไฟเต็มแล้ว ควรถอดสายชาร์จออก ไม่ควรปล่อยสายชาร์จเสียบทิ้งไว้ ในการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง จะใช้งานได้ประมาณ 70 ชั่วโมง ตามที่ระบุไว้ในเสปคครับ
ลองทดสอบการทำงานของ Automatic mode
ไม่ได้ถ่ายวิดีโอตอนปั่นจักรยานไว้นะครับ ลองทดสอบแบบง่ายๆ โดยใช้วิธีเอามือบังแสงบริเวณเซ็นเซอร์และวิธีหันหน้าหนีแสงและหันเข้าหาแสงเพื่อให้ดูความไวในการทำงานของเซ็นเซอร์และความเร็วในการเปลี่ยนความเข้มของเลนส์ครับ
ใช้แล้วเป็นยังไง โดยส่วนตัวแล้วชอบครับ ตัวแว่นสวมใส่สบาย น้ำหนักเบา เซ็นเซอร์ทำงานได้ไว การเปลี่ยนความเข้มของเลนส์ทำได้ไว สบายตา จุดที่ใช้แล้วรู้สึกขัดๆก็จะมีเรื่อง indicator การกระพริบของเลนส์หลังกดปุ่มสวิทช์เพื่อเข้าสู่ Automatic mode บางครั้งดูไม่ค่อยชัดเจนว่าเลนส์กระพริบไปกี่ครั้งแล้ว ทำให้งงๆ ว่าเข้าโหมดออโต้หรือยัง (หรือเพราะผมยังไม่ชินหว่า) แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร
สุดท้านี้เป็นวิดีโอพรีเซนเทชันตอนที่เค้าระดมทุนกันครับ
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้นะครับ
Update: 20 Sep 2017 ตอนนี้มีผู้นำเข้ามาจำหน่ายในไทยแล้วนะครับ ตามลิงค์นี้เลย
https://www.ctrl-eyewearthailand.com